Menu

loading

Banner_Desktop_เสียงที่บ้านรบกวนคุณ_มากกว่าที่คิด.jpg Banner_Mobile_เสียงที่บ้านรบกวนคุณ_มากกว่าที่คิด.jpg

เสียงที่บ้านรบกวนคุณ มากกว่าที่คิด

เสียงที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากจะรบกวนสมาธิในการทำงานและรบกวนเวลาพักผ่อน ก็ยังเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพได้อย่างคาดไม่ถึง และรู้หรือไหมว่าเสียงต่าง ๆ ที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันจากกิจกรรมต่าง ๆ มีระดับความดังอยู่ที่เท่าไหร่? หากคุณต้องเผชิญปัญหาจากเสียงรบกวน สามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง? วันนี้วินด์เซอร์มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเสียงมาฝากกัน


เสียงนี้ ดังระดับไหน?



  • ระดับปานกลาง (50-60 dB)

เป็นระดับเสียงที่เริ่มสร้างความรำคาญได้เล็กน้อย เช่น เสียงฝนตก เสียงไดร์เป่าผม


  • ระดับดัง (70-80 dB)

ระดับที่หูของคนเราเริ่มรู้สึกรำคาญและไม่ชอบที่จะได้ยิน เช่น เสียงรถหรือมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่าน เสียงเครื่องดูดฝุ่น


  • ระดับดังมาก (90-100 dB)

เช่น เสียงเครื่องตัดหญ้า เสียงในโรงงาน ซึ่งการฟังเสียงระดับตั้งแต่ 85 dB ขึ้นไปเป็นเวลานานๆ อาจทำให้สูญเสียการได้ยินได้


  • ระดับดังที่สุด (110-140 dB)

เป็นระดับเสียงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหู เช่น เสียงดนตรีที่เปิดจากลำโพงขนาดใหญ่ อย่างงานรื่นเริง งานคอนเสิร์ต หรือเสียงประทัด เสียงจุดพลุ



5 วิธีทำบ้านให้เงียบสงบ


หากคุณไม่อยากทนกับเสียงที่รบกวนการพักผ่อนอีกต่อไป ลองมาดู 5 วิธีนี้ที่จะช่วยลดทอนเสียงจากทั้งภายนอกและภายในบ้าน เพื่อการอยู่อาศัยที่เงียบสงบ


1.แบ่งกั้นห้องต่าง ๆ อย่างเป็นสัดส่วน 

ห้องที่เปิดโล่ง จะทำให้เสียงเกิดการกระจายตัวได้กว้าง เสียงจึงไม่ก้องอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่หากต้องการพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้บ้านดูเปิดโล่งเกินไป อาจเพิ่มผนังกั้นห้องเป็นตัวช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น ทั้งนี้ การใช้ผนังทึบอาจทำให้บ้านดูอึดอัด จึงอาจเลือกติดเป็นผนังกระจกหรือประตูบานเลื่อน Multitrack เพื่อให้บ้านยังคงความปลอดโปร่ง และลดเสียงรบกวนได้ในเวลาเดียวกัน 


2.ตกแต่งห้องด้วยผ้า ช่วยดูดซับเสียง

วัสดุผ้าและสิ่งทอต่าง ๆ มีลักษณะพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ จึงเป็นตัวช่วยดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ห้องไหนที่คุณต้องการความเงียบสงบมากเป็นพิเศษ เช่น ห้องนอน หรือ ห้องทำงาน ให้เลือกใช้ผ้าเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง เช่น โซฟาผ้า พรมผืนใหญ่ ผ้าม่าน หรืออาจนำผ้าที่มีลวดลายสวยงามมาตกแต่งคลุมที่เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็จะช่วยให้ห้องเงียบสงบได้มากขึ้น


3.จัดเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียงดังให้มิดชิด

เครื่องครัวหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่มีเสียงดัง ควรจัดวางให้มีส่วนกำบัง เช่น ส่วนของเตาปรุงอาหารที่มักมีเสียงของเครื่องดูดควันและเสียงขณะทำอาหารต่าง ๆ จึงควรแบ่งให้อยู่ในส่วนท้ายสุดของพื้นที่ โดยมีเคาน์เตอร์หรือผนังกึ่งโปร่งกึ่งทึบกั้น ส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาอบหรือเครื่องล้างจานที่มีเสียงดัง ควรมีพื้นที่จัดเก็บบิลท์อินอยู่ในผนัง จะสามารถช่วยกักเก็บเสียงได้ดี


4.กันเสียงจากนอกบ้าน

เสียงจากภายนอกก็เป็นอีกต้นเหตุสำคัญที่รบกวนการพักผ่อน ไม่ว่าจะเสียงรถวิ่งผ่าน เสียงเครื่องตัดหญ้า เสียงปั๊มน้ำ หรือเสียงเครื่องบิน โดยมากแล้วเสียงเหล่านี้จะผ่านเข้ามาภายในบ้านทางช่องเปิดต่าง ๆ หรือผ่านส่วนที่ผนังเป็นวัสดุชนิดบาง หนึ่งในทางแก้ไขคือการปิดช่องโหว่ต่าง ๆ ด้านที่อยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียง หรืออาจเปลี่ยนมาใช้ผนังหรือเพดานที่เป็นกันเสียงแทน


5.เปลี่ยนมาใช้ประตู-หน้าต่างไวนิล (uPVC)

เพราะเสียงรบกวนจากนอกบ้านมักผ่านเข้ามาตามช่องเปิดต่าง ๆ ประตูและหน้าต่างจึงถือเป็นปราการสำคัญที่ช่วยปกป้องคนในบ้านจากเสียงรบกวน ซึ่งกรอบบานที่ทำจากวัสดุไวนิลนั้นโดดเด่นในด้านคุณสมบัติการป้องกันเสียงได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ เช่น อลูมิเนียม หรือไม้ แต่ประตู-หน้าต่างไวนิล วินด์เซอร์ ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยโดยเฉพาะ


  • กรอบบานผลิตด้วยวัสดุไวนิลสูตรพิเศษ จาก WINDSOR Advance Vinyl Technology แข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ผุ บวม โก่ง จึงไม่เกิดช่องว่างที่ทำให้เสียงรบกวนเข้ามาสู่ภายในบ้าน
  • วงกบที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยลดทอนเสียงรบกวนโดยเฉพาะ พร้อมดีไซน์รางเลื่อนแบบลดช่องว่างภายในตัวราง ช่วยป้องกันเสียงไหลผ่านในระบบประตู-หน้าต่างบานเลื่อน รวมถึงติดตั้งขอบยาง 2 ชั้นในระบบประตู-หน้าต่างบานเปิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเสียง
  • ระบบล็อกแข็งแรง ปิดแน่นสนิท ไม่เกิดช่องว่างระหว่างกรอบบานและวงกบ จึงหมดห่วงเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก

เปลี่ยนบ้านของคุณให้เงียบสงบ ปราศจากเสียงรบกวน เริ่มต้นได้ที่การเปลี่ยนประตู-หน้าต่าง สนใจติดตั้งประตูหน้าต่างไวนิล วินด์เซอร์ ติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายวินด์เซอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ 


คลิก ดูรายละเอียดสินค้าวินด์เซอร์ ทุกรุ่น